บ้าน
แนะรักษาอย่างถูกต้อง สามารถป้องกันภาวะเสี่ยงได้
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผย โรคอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว สัญญาณเตือนโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง เบาหวาน เหตุเกิดจากภาวะหลอดเลือดอุดตัน สำรวจพบผู้ป่วยอาการหัวใจวาย 95% ยอมรับเคยประสบปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ศ.นพ.เออร์วิน โกลด์ทีน ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ ด้านเพศชายซานดิอาโก โรงพยาบาลอัลวาราโด มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชายด้านการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศระดับโลกของทฤษฏี "การแบ่งระดับความแข็งแรงอวัยวะเพศชายเกรด 1-4" เปิดเผยว่า จากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่า อายุที่เพิ่มมากขึ้น จะมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งในชายกลุ่มอายุระหว่าง 40-70 ปี มีถึง 40% ที่ประสบปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ศ.นพ.โกลด์ทีนกล่าวว่า ในกลุ่มผู้ชายที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่สามารถมีได้จากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ในอดีตจะเก็บตัว เลือกที่จะอยู่คนเดียว รู้สึกอายที่ขาดความเป็นชายทั้งที่ควรปรึกษาแพทย์ แต่ปัจจุบันจากที่มีหนังสือแนะนำให้ผู้มีปัญหาพบแพทย์ เพื่อให้ได้รับการรักษาถูกต้อง ทำให้มีผู้ที่มีปัญหา เลือกเข้ารับการรักษากับแพทย์มากขึ้น
ทั้งนี้แต่เดิมเราเข้าใจว่า ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นปัญหาที่สมอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นปัญหาสรีระร่างกาย โดยเฉพาะองคชาต เนื่องจากหลอดเลือดในองคชาตมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงแค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่เล็กที่สุดในร่างกาย และมีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดหัวใจ 3-4 เท่า เมื่อเกิดปัญหาเส้นเลือดอุดตันขึ้นจะส่งผลให้เกิดภาวะไม่แข็งตัว
"หลอดเลือดในองคชาตเป็นหลอดเลือดที่เล็กมาก หากเกิดปัญหาอุดตันที่ทำให้องคชาตไม่แข็งตัว ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบอกว่า คนคนนั้นกำลังมีปัญหาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมองตามมา ซึ่งจากการทำวิจัยโดยเก็บข้อมูลในกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดอาการหัวใจกำเริบ 95% ต่างบอกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีอาการขององคชาตไม่แข็งตัวมาก่อน" ศ.นพ.เออร์วิน กล่าว
ศ.นพ.โกลด์ทีน กล่าวต่อว่า จากข้อมูลข้างต้น ผู้ที่อยู่ที่ภาวะหย่อนสมรรณภาพทางเพศจึงควรพบแพทย์ เพราะนอกจากได้รับการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพอย่างถูกต้อง ได้รับยาที่ดีแล้ว แพทย์ยังช่วยตรวจสุขภาพร่างกายว่า มีโรคอื่นๆ เกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพื่อป้องกัน ซึ่งจากการวิจัยภายหลังเข้ารับการรักษาพบว่า ผู้ชายที่หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ต่างยอมรับว่า เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ขณะที่การวิจัยในกลุ่มผู้หญิงที่เป็นคู่ครองพบว่า เมื่อผู้ชายเข้ารับการรักษาแล้ว ยังทำให้การทำงานของอวัยวะเพศหญิงดีขึ้นด้วย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผย โรคอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว สัญญาณเตือนโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง เบาหวาน เหตุเกิดจากภาวะหลอดเลือดอุดตัน สำรวจพบผู้ป่วยอาการหัวใจวาย 95% ยอมรับเคยประสบปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ศ.นพ.เออร์วิน โกลด์ทีน ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ ด้านเพศชายซานดิอาโก โรงพยาบาลอัลวาราโด มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชายด้านการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศระดับโลกของทฤษฏี "การแบ่งระดับความแข็งแรงอวัยวะเพศชายเกรด 1-4" เปิดเผยว่า จากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่า อายุที่เพิ่มมากขึ้น จะมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งในชายกลุ่มอายุระหว่าง 40-70 ปี มีถึง 40% ที่ประสบปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ศ.นพ.โกลด์ทีนกล่าวว่า ในกลุ่มผู้ชายที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่สามารถมีได้จากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ในอดีตจะเก็บตัว เลือกที่จะอยู่คนเดียว รู้สึกอายที่ขาดความเป็นชายทั้งที่ควรปรึกษาแพทย์ แต่ปัจจุบันจากที่มีหนังสือแนะนำให้ผู้มีปัญหาพบแพทย์ เพื่อให้ได้รับการรักษาถูกต้อง ทำให้มีผู้ที่มีปัญหา เลือกเข้ารับการรักษากับแพทย์มากขึ้น
ทั้งนี้แต่เดิมเราเข้าใจว่า ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นปัญหาที่สมอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นปัญหาสรีระร่างกาย โดยเฉพาะองคชาต เนื่องจากหลอดเลือดในองคชาตมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงแค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่เล็กที่สุดในร่างกาย และมีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดหัวใจ 3-4 เท่า เมื่อเกิดปัญหาเส้นเลือดอุดตันขึ้นจะส่งผลให้เกิดภาวะไม่แข็งตัว
"หลอดเลือดในองคชาตเป็นหลอดเลือดที่เล็กมาก หากเกิดปัญหาอุดตันที่ทำให้องคชาตไม่แข็งตัว ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบอกว่า คนคนนั้นกำลังมีปัญหาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมองตามมา ซึ่งจากการทำวิจัยโดยเก็บข้อมูลในกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดอาการหัวใจกำเริบ 95% ต่างบอกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีอาการขององคชาตไม่แข็งตัวมาก่อน" ศ.นพ.เออร์วิน กล่าว
ศ.นพ.โกลด์ทีน กล่าวต่อว่า จากข้อมูลข้างต้น ผู้ที่อยู่ที่ภาวะหย่อนสมรรณภาพทางเพศจึงควรพบแพทย์ เพราะนอกจากได้รับการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพอย่างถูกต้อง ได้รับยาที่ดีแล้ว แพทย์ยังช่วยตรวจสุขภาพร่างกายว่า มีโรคอื่นๆ เกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพื่อป้องกัน ซึ่งจากการวิจัยภายหลังเข้ารับการรักษาพบว่า ผู้ชายที่หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ต่างยอมรับว่า เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ขณะที่การวิจัยในกลุ่มผู้หญิงที่เป็นคู่ครองพบว่า เมื่อผู้ชายเข้ารับการรักษาแล้ว ยังทำให้การทำงานของอวัยวะเพศหญิงดีขึ้นด้วย
